อดีตโกลเชลซี บางครั้งชีวิตคนเราอาจต้องพบกับจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ อย่างในกรณีของ ริคาร์โด้ ปราเซล อดีตผู้รักษาประตูสโมสรเชลซี
อดีตโกลเชลซี บางครั้งชีวิตคนเราอาจต้องพบกับจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ อย่างในกรณีของ ริคาร์โด้ ปราเซล อดีตผู้รักษาประตูสโมสรเชลซี ที่มีจุดพลิกผันให้ต้องตัดสินใจแขวนถุงมือตั้งแต่ช่วงอายุ 22 ปีก่อนจะได้ดิบได้ดีในการเป็นนักสู้ประเภทศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบผสม (เอ็มเอ็มเอ)
นายด่านชาวบราซิเลียน เริ่มต้นเข้าสู่วงการฟุตบอลอาชีพกับ แอตเลติโก พาราเนนเซ่ ก่อนจะร่วมทัพ คลับ แอตเลติโก ยูเวนตุส จากนั้นก็ย้ายมาเล่นในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ในยุคที่ โชเซ่ มูรินโญ่ กุมบังเหียน เมื่อปี 2009 ในวัยเพียง 18 ปี
ในเวลานั้น ปราเซลซึ่งเป็นเจ้าของความสูง 6 ฟุต 7 นิ้ว หรือประมาณ 2 เมตร เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงอย่างมาก แต่ต้องอยู่ภายใต้ร่มเงาของ ปีเตอร์ เช็ก กับ เอ็นริเก้ ฮิลาริโอ้ ปราเซลได้รับสัญญาอาชีพครั้งแรกกับ “สิงห์บลูส์” ในฐานะโกลมือ 3
อย่างไรก็ตามชีวิตของเขาต้องพลิกผันเมื่อได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่สะโพก และหลังจากนั้นต้องใช้เวลารักษาตัว 1 ปี แม้เจ้าตัวจะพยายามที่จะฟื้นฟูอาชีพของเขาด้วยการย้ายไป เล่นเบลเยียม แต่ก็ไม่สำเร็จสุดท้ายก็ตัดสินใจ เลิกเล่นไปโดยปริยาย
หลังจากเลือกแขวนถุงมือแล้ว ปราเซลเริ่มเข้าเรียน ในระดับวิทยาลัย ซึ่งที่นั่นทำให้เขาได้เริ่มศึกษาเกี่ยวกับศิลปะป้องกันตัว ที่เรียกว่า “ยิวยิตสู” หลังจากนั้น ปราเซลก็ตัดสินใจกระโดดเข้าสู่วงการมวยกรง และในปี 2012 เขาก็ได้ลงสนามเปิดตัวในรายการนี้
เมื่อเร็วๆ นี้ ปราเซลที่ปัจจุบัน อายุ 31 ปีเพิ่งเอาชนะ ไมเคิ่ล คิต้า วัย 41ปี ในยก 2 ของการแข่งขันรายการ “เคเอสดับเบิ้ลยู” สำหรับเส้นทางใหม่ของเขากำลังไปได้สวย แต่กระนั้นเจ้าตัวก็ไม่เคยลืมอดีตที่ครั้งหนึ่งได้อยู่กับสโมสรฟุตบอลระดับโลก
ปราเซลที่ไม่เคยได้ ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ เชลซีเลย แต่มักจะทำหน้าที่ ช่วยเหลือ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา กับ มิชาเอล บัคลัค ในช่วงระหว่างการฝึกซ้อมฟรีคิก โดยเจ้าตัวเปิดใจ เกี่ยวกับช่วงเวลาดังกล่าวว่า “ดร็อกบา เป็นคนที่โคตรน่าเหลือเชื่อ
ผมไม่เคยได้ลงเล่นในเกมอาชีพ เพราะผมเป็นผู้รักษาประตูมือ 3” “(ปีเตอร์) เช็ก กับ (เอ็นริเก้) ฮิลาริโอ้ มักได้ลงสนาม แต่ผมก็ได้เล่นร่วมกับพวกเขาทุกวัน เพราะหลังจากที่ฝึกซ้อม พวกเขาอยากที่จะซ้อมยิงฟรีคิก และผมต้องทำหน้าที่นั่น
เพื่อพยายามป้องกันลูกยิงฟรีคิก ผมใช้เวลา 30 นาทีทุกวัน ดร็อกบากับ บัลลัค มักซ้อมยิงฟรีคิก พระเจ้าพวกเขาไม่เคยพลาดเลย มันน่าเหลือเชื่อมาก” รีวิวเจ็ทสกี
ได้ดิบได้ดีในการเป็นนักสู้ประเภทศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบผสม (เอ็มเอ็มเอ)
อดีตโกลเชลซี หลังจากที่ไม่ประสบความสำเร็จกับ เชลซี สุดท้าย ปราเซลก็ถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับอาร์เอฟซี ลีแอช แต่อาการบาดเจ็บสะโพกเป็นอุปสรรคสำคัญจนทำให้เขาต้องเลิกเล่นไปอย่างเจ็บปวด ปราเซลต้องหวนกลับไปยัง บราซิล บ้านเกิดเพื่อทำการศึกษาหาความรู้ ต้องการซากา
และเริ่มฝึกกีฬา “ยิวยิตสู” เพื่อรักษาความฟิต โดยเขาเผยว่า “ตอนที่ผมเริ่มฝึกกีฬายิวยิตสู ผมไม่ได้ตั้งใจว่าจะเอาดีจนกลายเป็นนักกีฬาอาชีพ” “ผมเริ่มเข้าเรียนในวิทยาลัย และฝึกซ้อมยิวยิตสูเพื่อความสนุก แต่มีหลายๆ อย่างเริ่มเกิดขึ้น
การเลิกเล่นกีฬาชนิดหนึ่ง และไปถึงระดับกีฬา อีกประเภทหนึ่ง เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากๆ ครอบครัวภูมิใจในตัวผม, พ่อของผมภูมิใจผมมากๆ มันเป็นอะไรที่สุดยอดจริงๆ” การที่ต้องเลิกเล่นฟุตบอล ซึ่งเป็นกีฬาที่รักที่สุด เป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง
แต่ปราเซล ก็ไม่ได้เสียใจ ที่ต้องหันเหชีวิต จากเกมลูกหนัง และประสบความสำเร็จกับกีฬาเอ็มเอ็มเอ “ถ้าคุณถามผมว่า ผมอยากเล่นให้กับทีมชาติบราซิล หรือเข้าสู่วงการนักสู้ยูเอฟซี ขอตอบเป็นร้อยครั้งว่า ผมจะเลือกเป็นนักสู้ ในการแข่งขันยูเอฟซี”
“สำหรับกีฬาเอ็มเอ็มเอ มันขึ้นอยู่กับตัวผมเท่านั้น และอะดรีนาลีน มันพุ่งพล่านสุดๆ ผมรักกีฬานี้ ผมรักการต่อสู้ ครั้งหนึ่งผมเป็นนักฟุตบอลที่ดี แต่ผมไม่มีทางแลก กับอาชีพนักสู้แน่นอน” ทั้งนี้ปราเซล ต้องกระโดนเข้าสู่การแข่งขันระดับ “เคเอสดับเบิ้ลยู”
ซึ่งเป็นลีก “เอ็มเอ็มเอ” ชั้นนำในยุโรป โดยเขาเป็นที่รู้จักกันในนาม “เดอะ เยอรมัน” เพราะพ่อของเขาเป็นชาวด๊อยท์ช ผลงานของเจ้าตัวมีสถิติชนะ 11 และแพ้ 3 ไฟ ครั้งหนึ่งปราเซล อาจจะไม่สามารถหยุดพลัง การยิงฟรีคิกจากบาทาของ ดร็อกบา ได้
แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะการเตะและการชกจากคู่แข่ง เขาพร้อมที่จะรับมือได้ ทุกกระบวนท่า และไม่รู้สึกหวาดหวั่น อะไรทั้งนั้น https://www.lynnmeadowsgolf.com