แมดดิสันพูดอะไร ส่งข้อความถึง อลีสซง เบ็คเกอร์ ข้างหลังจบเกมที่ เลสเตอร์ สิตี้ แซงเอาชนะ หงส์แดง 3-1 ในเกมพรีเมียร์ลีก

แมดดิสันพูดอะไร กองกลางรูปหล่อของ เลสเตอร์ สิตี้ ส่งข้อความให้กำลังใจ อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้เฝ้าประตูของ หงส์แดง ที่ก่อความบกพร่องสองเกมติด ซึ่งนัดหมายปัจจุบันที่ คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม มือกาวแซมบ้ามีส่วนกับการได้ประตูที่สองของ “จิ้งจ้องมองสีน้ำเงิน”

“ลิเวอร์พูล” หงส์แดง เป็นข้างขึ้นนำก่อนจากลูกยิงของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นาทีที่ 67 แม้กระนั้นต่อไป เลสเตอร์ เอาคืนสามประตูรวดในตอน 7 นาที เริ่มจากลูกยิงฟรีคิกของ เจมส์ แมดดิสัน นาทีที่ 78 ก่อนที่จะ เจมี่ วาร์ดี้ จะลักความบกพร่องระหว่าง โอซาน คาบัค กับ อลีสซง แล้วเข้าไปยิงกล้วยๆทำให้ เลสเตอร์ กลับแซงขึ้นนำในนาทีที่ 81 ก่อนที่จะ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ หลุดเข้าไปยิงปิดกล่องให้ “เดอะ ฟ็อกซ์” เอาชนะไปได้ 3-1 รีวิวเจ็ทสกี

ข้างหลังจบเกม แมดดิสัน วัย 24 ปี ได้ให้สัมภาษณ์ บีที สปอร์ต โดยเปิดเผยว่ากลุ่มของตนเองกำลังอยู่ในเวลาที่ดี แล้วก็การเอาชนะ นั้นมันไม่ง่ายเลย “พวกเราทราบว่าเมื่อพวกเราเล่นกับ มันเป็นงานยากด้วยเหตุว่าพวกเขาสามารถเล่น ทั้งคู่ส่วนของเกม ก้าวหน้ามากมายๆ พวกเขาสามารถสร้าง แล้วก็สามารถจ่ายบอล รวมทั้งสามารถวางบอล ยาวให้ ซาลาห์ กับ มาเน่ วิ่งตัดแนวรับได้”

“สิ่งที่จำเป็นต้องทำเป็นจะต้องอยู่ในเกมให้ได้ ด้วยคุณภาพอันเยี่ยมที่สุดพวกเราเป็นกลุ่มระดับท็อปในเวลานี้ เพราะฉะนั้นพวกเรารู้ว่าพวกเราก็ได้โอกาส พวกเรากดดันใส่พวกเขา แล้วก็มันก็ทำให้เห็นว่าตอน 12 นาทีพวกเรากลับคืนสู่เกมได้”

“ใน พรีเมียร์ลีก เกมมันสามารถแปรไปได้อย่างเร็ว รวมทั้งยิ่งพวกเขาเดินหน้าบุกเท่าใด ก็ยิ่งเปิดพื้นที่ให้ บาร์นส์(ฮาร์วี่ย์) เพิ่มขึ้นเรื่อยๆในจังหวะตอบโต้กลับ พวกเราก็เลยใช้ประโยชน์จากนี้”

แมดดิสันพูดอะไร นอกจากนั้น อดีตลำแข้ง นอริช ยังพูดถึงจังหวะการได้ประตูลำดับที่สองที่ วาร์ดี้ ลักความผิดพลาดของผู้เล่น กระทั่งทำให้กลุ่มได้ประตูแซงขึ้นนำ 2-1 ว่า “สิ่งที่ วาร์ดี้ ทำ(จากข้อผิดพลาด) เขากอบโกยจังหวะนั้นได้ มันเป็นการติดต่อบกพร่องกันระหว่างเซ็นเตอร์ฮาล์ฟกับผู้เฝ้าประตู ผมมีความรู้สึกว่าคุณน่าจะมิได้มองเห็นบ่อยครั้งนัก”

“เห็นได้ชัดเลยว่า พบขณะทุกข์ยากเวลานี้ ทั้งยังในเกมก่อนแล้วก็เกมวันนี้ แต่ว่าเขากก็ยังเป็นผู้เฝ้าประตูมือดี และก็ผมแน่ใจว่าเขาจะกลับมาได้” แมดดิสัน จบท้าย

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมันจัดเตรียมนำ หงส์แดง บุกเยี่ยม ฟูแล่ม ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 13 เดือนธันวาคมนี้ โดยพวกเขาอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีสถิติไม่ค่อยดีนักสำหรับเพื่อการเล่นนอกบ้านเกมลีก ด้วยเหตุว่าสะกดคำว่าชนะมิได้เลยใน 4 เกมหลังสุด แตกต่างจากการเล่นในแอนฟิลด์ ราวฟ้ากับเหว บิ๊กดังค์แสบ

แมตช์นี้ “ลิเวอร์พูล” มีข่าวดีมากมายๆเมื่อ เบ็คเกอร์ ฟิตบริบูรณ์พร้อมกลับมาปฏิบัติภารกิจเป็นมือ 1 ให้กับชมรม ตอนที่แบ็กโฟร์ได้ผู้เล่นชุดที่แข็งที่สุดคืนกองทัพเป็นต้นว่า โฌแอล มาติเตียนป, ฟาบินโญ่, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แล้วก็แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน

แมดดิสันพูดอะไร ขณะเดียวกัน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จัดเตรียมที่จะลบล้างอาถรรพณ์ในการเล่นที่กรุงลอนดอน ซึ่งชอบทำประตูไม่ค่อยได้ โดยซัดไปเพียงแค่ประตูเดียวจาก 12 เกมหลังสุดที่มาเยี่ยมเมืองหลวงผู้ดี ที่สำคัญเกมนี้พวกเขาจะต้องเก็บชัยให้ได้ เพื่อแทรกกับ สเปอร์ส ซึ่งกำลังฟอร์มแรงขณะนี้

ถึงแม้ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ผู้เฝ้าประตูอนาคตไกลจะโชว์ฟอร์มได้อย่างสะดุดตาในตอน 3 เกมปัจจุบันที่ได้รับจังหวะจาก คล็อปป์ แม้กระนั้นเวลานี้ เบ็คเกอร์ กลับมาฟิตบริบูรณ์แล้ว รวมทั้งแน่ๆว่าตำแหน่งมือ 1 กองทัพ “ลิเวอร์พูล” จะคืนสู่ที่เดิมอีกรอบ

แมดดิสันพูดอะไร ผลงานของ โกลชาวไอริช ได้รับคำชมเชยอย่างมาเพราะเหตุว่าเจ้าตัวได้บ่งบอกถึงถึงความนิ่ง แล้วก็ความฉลาดที่เร็วรวดเร็ว สำหรับเพื่อการปฏิบัติภารกิจนายด่านด่านท้ายที่สุด ทั้งที่พึ่งจะได้ลงในสนามให้กับกลุ่มชุดใหญ่เพียงแค่ไม่กี่นัดหมาย แม้กระนั้นฟอร์มของเขาทำให้ผู้คนจำนวนมากชมเชยว่ามีอนาคต และไม่ใช่เรื่องแปลกที่ เคลเลเฮอร์ จะได้รับบทมือ 2 แทน อาเดรียน

นายใหญ่ชาวเยอรมัน ออกมารับรองแล้วว่า นายทวารกลุ่มชาติบราซิล มีสภาพร่างกายฟิตเปรี๊ยะ และก็กลับมาฝึกหัดได้อย่างมากเมื่อวันศุกร์ก่อนหน้านี้ โดยงานนี้ โกลเลือดแซมบ้า มิได้มีปฏิกิริยาที่ทรุดโทรมใดๆก็ตามทั้งมวล ด้วยเหตุนี้ก็เลยมีความน่าจะเป็นสูงที่เขาจะกลับมาเป็นมือ 1 ในแมตช์เยี่ยม ฟูเฉือนม วันอาทิตย์นี้

แน่ๆว่าสาวก “เดอะ ค็อป” อาจจะแฮปปี้สุดๆที่ได้มองเห็น กลับมาประจำการอีกรอบ เนื่องจากความเหนียวหนึบของเขาอาจทำให้แผงแบ็กโฟร์รู้สึกสบายใจมากขึ้นเรื่อยๆ ที่สำคัญการที่มี “บิดาหมี” ยืนสูงเด่นรอบๆหน้าประตูสามารถข่มขู่เกมรุกของกองทัพ “เจ้าสัวน้อย” ได้มากอย่างยิ่งจริงๆ

จำเป็นต้องเห็นด้วยว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำผลงานได้อย่างน่าอัศจรรย์ให้กับ “ลิเวอร์พูล” เมื่อเขาตะบันตาข่ายคู่ปรปักษ์ไปแล้ว 82 ประตูจากการลงสนาม 118 แมตช์ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งนับว่าเยอะกว่านักเตะผู้อื่นตั้งแต่แมื่อที่เริ่มฤดู 2017/2018

ถึงแม้ว่าสถิติในการทำประตูของ “คิง ออฟ อียิปต์” จะดูดีสะดุดตาอย่างมาก แม้กระนั้นสิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็นรอยด่างในชีวิตนักฟุตบอลของเขาที่มาค้าหน้าแข้งในเมืองผู้ดีก็คือ การที่ ซาลาห์ จะต้องพบกับความลำบากเมื่อใดก็ตามมาเล่นในกรุงลอนดอน เพราะเหตุว่าเขายิงได้เพียงแค่ประตูเดียวจาก 12 เกมหลังสุดที่มาเยี่ยมเมืองหลวงผู้ดี โดยเกิดขึ้นในเกมเจอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา